ยิ่งแก่ตัวความคิดก็ยิ่งตอกย้ำว่า..อะไรๆก็ไม่แน่นอน..ผมทำงานเกิดขึ้นในงานพัฒนาชุมชนจึงอยากตอบแทนพระคุณกรมการพัฒนาชุมชนโดยเขียนประสบการณ์ตรงในการทำงานลงใน Web Blog โดยมีความมุ่งหวังว่าจะเกิดประโยชน์ต่อชาวพัฒนาชุมชนและผู้สนใจท่านอื่นบ้าง อีกประการหนึ่งหากท่าน พช.ใดมีweb Blog ของตนเองจะยินดีแลกเปลี่ยนเรียนเรียนรู้ก็ให้ส่ง Address Blog ของท่าน ไปให้ผมที่เขต 5ได้เพื่อ Link เป็นเครือข่ายกัน
10/19/2006
10/17/2006
เรื่อง การจัดการความรู้
ท่านผู้ใหญ่ที่เคารพในวงการพัฒนาชุมชนกรุณาเล่าให้เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนฟังว่า ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พยาบาลมักจะมีปัญหากับผู้ปกครองเด็กเพราะว่าเด็กเล็กบางคนกินยายาก ทำให้พยาบาลจะต้องรัดตัวเด็กเล็กให้เด็กอ้าปากเวลารับประทานยาและผู้ปกครองมักจะเห็นและต่อว่าเป็นพยาบาลโหด พยาบาลกลุ่มนี้จึงได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน พยาบาลคนที่ 1 กล่าวว่า เมื่อเด็กเล็กกินยายากฉันจะแอบไปที่หลังตู้เพื่อรัดเด็กให้อ้าปากกินยาไม่ให้ผู้ปกครองเห็น พยาบาลคนที่ 2 บอกว่าแก้ไขง่ายนิดเดียว...เพียงขอเชิญผู้ปกครองมาอุ้มเด็กและให้เขาพยายามให้เด็กอ้าปาก...แล้วเราก็ป้อนยา...ผู้ปกครองมีส่วนร่วมทำให้ไม่เกิดปัญหาใดๆทั้งสิ้น ทุกคนได้แต่มองตากันแล้วก็คิดเหมือนกันว่าวิธีนี้ใช่เลย
10/15/2006
ตอน ใครรับผิดชอบ
พัฒนาการอำเภอได้รับเชิญไปร่วมประชุมคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านหนึ่ง ปรากฏว่าในที่ประชุมได้ถกเถียงถึงผู้ที่จะรับผิดชอบที่มีสมาชิกกองทุนหลายรายไม่ส่งเงินคืนตามสัญญา อจ.ใหญ่ ร.ร.ในหมู่บ้านที่ปรึกษากองทุนได้กล่าวว่า...ผู้ที่จะรับผิดชอบติดตามและดำเนินการให้สมาชิกกองทุนที่กู้เงินไปคืนเเงินคือ...คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านนั้นเอง เพราะเป็นผู้อนุมัติให้สมาชิกกู้ และผู้อนุมัติต้องมีสำนึกว่าให้คนดีกู้ไปลงทุนประกอบอาชีพ ไม่มีประวัติเสียหายในด้านความประพฤติ การเงิน และมีความเป็นไปได้สูงที่สมาชิกนั้นจะรับผิดชอบต่อสังคมส่งเงินคืนตามกำหนด พัฒนาการอำเภอได้แต่คิดสนับสนุนว่า..ใช่แล้ว...
10/14/2006
เรื่อง หนึ่งเดียวของอาจารย์สมศักดิ์ฯ
อจ.สมศักดิ์ฯออกความคิดเห็นว่า...ผมมีภรรยาคนเดียวและไม่มีใครอื่นจะเข้าหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงหรือไม่...โอ นวช.ท่านอื่นแสดงความคิดเห็นว่า...การมีครอบครัวผัวเดียวเมียเดียวเป็นเรื่องปกติเป็นศีลธรรมอันดีงามตั้งแต่โบราณกาลของไทยมาแล้วไม่ควรเอาไปเปรียบเทียบกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเลย ผมจึงคิดว่า เอ พื้นฐานความคิดของสังคมไทยจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไปแล้วหรือไม่ ท่านที่เข้าใจกรุณาบอกด้วยจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
10/13/2006
ตอน เลิกบุหรี่
ผมติดบุหรี่มาประมาณ 30กว่าปี และปี พ.ศ. 2543 ผมก็ได้เข้าอบรมที่วิทยาลัยการพัฒนาชุมชน ๆ ก็ได้เชิญอาจารย์พิพิธฯได้พูดคุณถึงการเลิกบุหรี่ของท่านว่า...ผมสูบบุหรี่วันละ 5 ซอง เลิกไม่ได้ซักที วิธีสุดท้ายที่ผมทำคือ ผมจะไม่เลิก...แต่จะขอสูบวันพรุ่งนี้..แล้วนำบุหรี่มาเหน็บที่บนหูตลอด...ปรากฏว่าวัน..วันไม่ได้สูบเลยจึงเป็นอันเลิกในที่สุด ผมจึงทดลองปฏิบัติและได้ผล มีเพื่อนคนหนึ่งติดบุหรี่ให้ผมแล้วว่า..เอาคุณสูบบุหรี่เสีย..ผมตอบว่าครับแล้วนำบุหรี่วางบนที่เขี่ยจนหมดและคิดในใจว่า...ผมจะไม่เลิกบุหรี่...แต่จะสูบวันพรุ่งนี้
10/12/2006
เรื่อง เปิดสะพาน
นานมาแล้วกำนันหมอก ใจคำ เล่าให้พัฒนากรใหม่ฟังว่า...ชาวบ้านได้ร่วมกันลงทุนเงิน 6 แสนกว่าบาทสร้างสะพานบ้านดงข้ามแม่น้ำวัง ชาวบ้านดีอกดีใจกันและจะจัดให้มีพิธีเปิดสะพาน...แต่...แต่...ปรากฏว่ามีคนกลุ่มหนึ่งคัดค้านการเปิดสะพาน...โอ้ใครเล่าช่างไม่ส่งเสริมความสะดวกแก่ประชาชนเลย...กำนันหมอกเล่าต่อว่า...มันมี 2 ครอบครัวที่คัดค้าน ก็คือ ครอบครัว...แจวเรือจ้าง กำนันหมอกจึงสรุปว่า...การพัฒนาทุกอย่างต้องมีอุปสรรคและแก้ไขได้เสมอ
10/11/2006
นิทาน ทำทาน ไม่ได้บุญ
มีคุณป้าคนหนึ่งพูดคุยและระบายเรื่องบางอย่างกับพัฒนากรว่า...ป้าไปตลาดทุกวัน ระหว่างทางได้พบกับขอทานและป้าให้ทานวันละ 1 บาททุกวัน...วันหนึ่งป้าลืมเหรียญบาทพกมาด้วย ก็ไม่ได้ให้เงินขอทานนั้น ด้วยความสงสารป้าจึงเหลียวหลังดู...ปรากฏว่า...ว่า...ขอทานเขาด่าป้าไม่มีชิ้นดี..เป็นคำหยาบ..ป้าทนไม่ได้ป้าจึงคิดว่า ทำทานแล้ว...ทำไมไม่ได้บุญ พัฒนากรยังคิดไม่ออกจึงขอเปิดกว้างว่า...ท่านใดรู้กรุณาแจ้งสังคมที
10/10/2006
เรื่อง อย่างนี้ ก็มี
พัฒนากรได้นั่งคุยกับครัวเรือนเป้าหมายแก้ไขปัญหาความยากจน หัวหน้าครัวเรือนได้เอ่ยว่า...สภาพภายนอกของครอบครัวผมเป็นอย่างนี้...บ้านก็เก่าสัปปะรังเคดูผิวเผินครอบครัวผมยากจนมาก...แต่..แต่ ครอบครัวของผมพอใจเป็นอย่างนี้...เพราะอะไรหรือ...เพราะเราอยู่ร่วมในสังคม...เราจึงตกลงกันว่า...เราจะอยู่ร่วมกับญาติพี่น้องในสภาพความเป็นอยู่เหมือนๆคล้ายๆกัน ทำให้ไม่เกิดช่องว่างระหว่างเรากับเขา ปรากฏการณ์จะทำให้ครอบครัวเราร่มเย็นเป็นสุขเกิดความสมดุลกลมกลืนกัน พัฒนากรจึงคิดว่า เอ้า...ความคิดอย่างนี้ก็มีด้วยหรือ
10/09/2006
เรื่อง Insite out
งานพัฒนาชุมชนบางครั้งก็เป็นเรื่องยากที่จะต้องดำเนินการ ผู้บริหารบางท่านก็เน้นเรื่อง Insite Out แปลว่าต้องนำความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวคนเอาออกมาทำประโยชน์ หรือเรียกว่า Empowerment เป็นการกระทำที่เกิดจากพลังที่เกิดจากภายในของคนจากประสบการณ์ สำหรับความรู้ที่ได้เก็บรักษาไว้ในตำราหรือคลังก็สามารถนำมาใช้ได้เลย แต่ปราชญ์บางท่านได้กล่าวว่า...ความรู้พันชนิด ไม่เท่าความคิดปัญญา 1 เรื่อง แท้จริงอย่างไรต้องถามท่านๆแล้ว
10/08/2006
ตอน หวุดหวิด
วันหนึ่งเพื่อนหัวหน้าฝ่ายฯสนง.จ.แม่ฮ่องสอนได้ชวนกันไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารลูกทุ่งซึ่งห่างจากตัวอำเภอเมืองประมาณ 8 กิโลเมตรระหว่างทางผมได้ขับรถยนต์ส่วนตัวกำลังมุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารก็ปรากฏว่ามีลมฝน ทันใดนั้นเอง...เพื่อนก็ร้องลั่นว่าเบรค เสียงก็ดังสนั่นหวั่นไหว...โครม...กิ่ง ก้าน ใบต้นไม้ปลิวว่อนปะทะหน้ารถอย่างจัง รถเบรคกีกหยุดอยู่กับที่ ผมตะโกนว่าต้นไม้ใหญ่ล้มหวุดหวิดทับรถเราแล้ว เพื่อนเอ่ยว่าเรายังไม่ถึงที่ตาย..มันก็ไม่ตายวายชีวา แม้ถึงครางีบหลับนอนก็ยังไป ฉะนั้นเรารีบเว้นไปข้างทางและบึ่งไปที่ร้านลูกทุ่งดีกว่า
10/07/2006
นิทาน พระกับยักษ์
พระธุดงค์ได้ปฏิบัติธรรมะในถ้ำแห่งหนึ่ง...คืนนั้นได้นั่งกัมมัฏฐานและญาณได้พบกับพญายักษ์ๆกล่าว...ท่านมารบกวนเราทำไหม...เราจะฆ่าท่านเพียงเราเอาไม้กระบองวางบนท่านๆก็จะจมลงในธรณี พระกล่าวว่าอาตมาตั้งใจมาปฏิบัติธรรมะของพระตถาคตไม่ได้มารบกวนท่าน ก่อนที่ท่านจะฆ่าอาตมาๆจะขอให้ธรรมะของพระพุทธเจ้าข้อหนึ่งว่า การฆ่าเป็นบาปและบาปจะเป็นกรรมติดตัวไป อาตมาไม่กลัวตายอย่างไรวันหนึ่งอาตมาก็ต้องมรณะภาพอยู่ดี...หากท่านจะฆ่าอาตมาก็ทำได้เลย พญายักษ์ได้ยินดังนั้นจึงก้มลงกราบพระและกล่าวว่าข้าน้อยขอถวายตัวเป็นศิษย์ท่าน ต่อมาพญายักษ์ก็เป็นศิษย์ที่ดีและปฏิบัติธรรมะอย่างตั้งใจ
10/06/2006
นิทาน พ่อแม่รังแกฉัน
วณิพกยาจกคนหนึ่งได้เล่าเรื่องตัวเองให้พัฒนากรฟังว่า...เดิมทีผมเกิดมาเป็นลูกคนเดียวของเศรษฐีใหญ่ พ่อแม่ได้เลี้ยงดูแบบเอาอกเอาใจตามใจผมทุกอย่าง...ทำให้ผมเคยตัวและทำอะไรไม่เป็นเลย...ต่อมาพ่อแม่ได้จากไปทิ้งทรัพย์สมบัติไว้อย่างมหาศาล...และแล้วผมก็ได้แต่ใช้ทรัพย์สินนั้นอย่างฟุ่มเฟือยเคยตัวไม่ระมัดระวังทำให้ทรัพย์สมบัติหมดไปอย่างรวดเร็ว ชีวิตผมจึงได้ตกอับทำอะไรไม่เป็นและก็ได้เป็นวณิพกในเวลาต่อมา ผมจึงนีกได้ว่าเป็นเพราะ...พ่อแม่รังแกฉัน...ที่ไม่ทำให้ฉันเข้มแข็งทำอาชีพได้บนขาของตนเอง...พัฒนากรได้ยินดังนั้นจึงคิดว่า...โถน่าสงสารจัง...ชีวิตของลูกเราควรจะให้...ปัญญามากว่าทรัพย์สินนะ
10/05/2006
ความถูกต้องหรือความถูกใจ
ไม่นานมานี้มีคณะกรรมการหมู่บ้านหนึ่งในอำเภอแจ้ห่มได้ยื่นแบบ กทบ.2 เพื่อจัดตั้งกองทุนหมูบ้าน ปรากฏว่าพนักงานออมสินกล่าวว่าคุณจะมาเถียงฉันทำไมว่า..มันเป็นความต้องการของหมู่บ้าน...แต่มันไม่ถูกแบบฟอร์ม...ฉันยึดความถูกต้องเป็นหลักเพราะ1เมื่อไม่ถูกต้องก็ต้องโดนส่วนกลางตีกลับอยู่ดี2ความถูกต้องเป็นความเสมอภาคทุกกองทุนต้องทำตามแบบฟอร์มเหมือนกันหมด3เป็นความยุติธรรมด้วย ฉะนั้นฉันขอความกรุณาคุณ...คุณ ช่วยแก้ไขให้ถูกต้องแล้วคุณจะถูกใจเอง...เพราะเรื่องกองทุนของพวกท่านต้องผ่านแน่นอน
10/03/2006
ศักยภาพ คนแม่วาง
10/02/2006
เทคนิค การทำงาน
นานมาแล้ว ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองปาน นายอำเภอคนเก่งได้พูดในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการตอนท้ายว่า ขอให้พวกท่านตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ ผมจึงขอแนะนำเทคนิคในการทำงานว่า...การทำงานต้องทำใจให้ว่าง...จะทำให้เราผ่อนคลายสบายและมีความคิดที่กว้างไกล...วันใดมีความเครียดจะทำให้ติดขัดและทำงานได้น้อย...ถ้าวันใดทำใจให้ว่างจะไม่เหนื่อยและทำได้เรื่อยๆจะได้งานมาก มีคนถามแล้วทำอย่างไรใจจึงว่างครับ...นอภ.ตอบ...ต้องทำใจให้แจ่มใจปลอดโปร่งแล้วค่อยๆทำงานจากเรื่องง่ายๆไปหาเรื่องยาก
10/01/2006
เรื่อง ความรัก
ณ โรงอาหาร ศพช.เขต 5 หลังอาหารเย็นมีผู้เฒ่า 2 รายกำลังถกเถียงกันอยู่ลุงสมจิตต์เอ่ยขึ้นว่า...ความรักคือความเห็นแก่ตัวเพราะรักใครเราต้องได้มาร่วมชีวิตกันและความต้องการของเราอยากให้คนรักได้ดี ลุงธานีเอ่ยว่า โอ ไม่..ไม่ แท้จริงความรักคือการเสียสละ ถ้าเรารักใคร..ใครคนนั้นมีความสุขเราก็พอใจและเราต้องเสียสละให้เขามีความสุขตามทางของเขา ผมได้ยินดังนั้นจึงเวียนหัวมากและอยากจะถามใครสักคนว่า..ความรักมันคืออะไรกันแน่
9/30/2006
9/29/2006
กลยุทธ์ ปากส้ม ก้นหวาน
ประมาณปี 2524 ผมมีความรู้สึกรักและเคารพท่านพัฒนาการจังหวัดท่านหนึ่ง เพื่อนๆที่มาพูดคุยกับผมหลายๆคนมักจะคุยในทำนองเดียวกันว่าพัฒนาการจังหวัดได้คุยว่าผมเป็นคนดีและเป็นคนเก่งเป็นประจำ...ทำให้ผมมีกำลังใจทุ่มเทกับการงานในหน้าที่...วันหนึ่งผมกำลังจะผลักม่านบังตาเข้าพบพัฒนาการจังหวัดแต่ก็ได้ยินเสียงท่านพูดคุยกับหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดคนหนึ่งว่า...เอาอย่างผมซิเวลาจะชมเขาต้องชมให้เพื่อนเขาฟัง..เพื่อให้เพื่อนเขาไปเล่าให้ตัวเขาฟัง..เป็นกลยุทธ์ ปากส้ม ก้นหวาน ผมได้ยินดังนั้นก็นึกในใจว่า อ้า ผมต้องมนต์กลยุทธ์หัวหน้าเสียแล้ว
9/28/2006
ขำขัน เรื่องใครผิด
ในคราวสัมมนาครั้งหนึ่งในภาคเหนือ มีผู้เข้าร่วมสัมมนา จำนวน 50 คน วันนั้นอาหารกลางวันอร่อยมากทำให้ภาคบ่ายผู้เข้ารับการสัมมนาง่วงนอนมาก ทันใดนั้นวิทยากรขอทายปัญหาภาคเหนือว่า...ปี๋หนานกินเหล้า...ตุ๊เจ้าเอาเมีย..ใครผิด? ทุกคนจะตอบว่าผิดทั้งคู่ จริงจริงวิทยากรเฉลยว่า คนผิดจริงคือปี๋หนาน...คือผิดศีล 5 สำหรับตุ๊เจ้าเอาเมียหมายความว่า...พระเอาพี่หนานกลับบ้าน(เอาเมีย..ภาษาเหนือแปลว่าเอากลับบ้าน)
9/27/2006
เรื่อง กลุ่มออมทรัพย์ฯบ้านทุ่งฮ่าง
พัฒนาการอำเภอไปร่วมงานวันเด็กที่บ้านทุ่งฮ่าง มกราคม 2542 พอพบกับกำนันพื้นที่ พัฒนาการอำเภอกล่าวว่า โอโห บ้านทุ่งฮ่างจัดงานวันเด็กใหญ่โตมาก กำนันได้ยินดังนั้นจึงโอ่ว่า มันเป็นแรงผลักดันจากสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์ฯที่มีค่อนหมู่บ้าน มีเงินสัจจะสะสมกว่า 2 ล้านบาท อบต.และโรงเรียนยังขอแจมมีส่วนร่วมด้วย กลุ่มออมทรัพย์จึงให้เงินดำเนินการ 2 หมื่นบาทและให้สมาชิกทุกคนนำของขวัญของรางวัลมาด้วยคนละไม่ต่ำกว่า100บาท ปีหนึ่งมีครั้งเดียว ท่านพัฒนาการอำเภอล่ะ จะมีส่วนร่วมไหม ผมร่วม 500 บาทครับ
9/26/2006
เรื่อง โรงแรมชั้นเลิศ
บนรถบัสทัวร์ประเทศลาว คณะทัวร์ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วของไกด์สาว เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง ชายหนุ่มคนหนึ่งถามว่า"อาหารประจำชาติลาวเป็นอาหารอะไร?" เธอตอบ"ต๋ำบักฮุง ซิแซ่บ กระดี้..กระด้า" หมายความว่า ส้มตำ อร่อยมาก หญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยว่า "เราควรไปหาอะไรกินที่โรงแรมชั้นหนึ่งดีไหม" ไกด์สาวให้ข้อมูลว่า โรงแรมชั้นหนึ่งในลาวไม่มีร้านอาหารนี่ หญิงสาวจึงถามอีกว่า"เป็นโรงแรมชั้นหนึ่งอะไรไม่มีร้านอาหาร" ไกด์สาวรีบตอบว่า"โรงแรมชั้นหนึ่งหมายถึงโรงแรมชั้นเดียว โรงแรมอย่างดีเขาเรียกว่าโรงแรมชั้นเลิศ" หญิงสาวต่อคำว่า..ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปกินอาหารในโรงแรมชั้นเลิศกันนะ
เรื่อง สังคมกิ๊ก
พัฒนากรออกท้องที่เยี่ยมเยียนร้านค้าศูนย์สาธิตการตลาดและกำลังคุยกับคุณป้าผู้จัดการก็ได้ยินเสียงดัง "ลูกฉัน..ลูกเธอ..รังแกลูกเรา" คุณป้าผู้จัดการก็เอ่ยขึ้นว่าบ้านนี่ทะเลาะกันได้ทุกวัน ผู้ชายก็มีเมียมาแล้ว ผู้หญิงก็มีผัวมาแล้ว มีลูกติดมาทั้งคู่ เวรกรรมดันมา "กิ๊ก" กันมีลูกด้วยกันอีก วันๆมีแต่เรื่องทะเลาะกัน สมัยนี้เขาไม่ค่อยถือเหมือนสมัยก่อน เขาเรียกว่าสมัยสังคมกิ๊ก พัฒนากรจึงคิดในใจว่า อ้าว แล้วใครจะแก้ล่ะ
9/25/2006
เรื่อง การคบเพื่อน
สมัยเริ่มเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2516 เป็นชีวิตช่วงหนึ่งที่เต็มไปด้วยความสุข มีชีวิต..ชีวา ความรับผิดชอบมีเรื่องเดียวคือ..การเรียนหนังสือ การดำรงชีวิตและการคบเพื่อนเต็มไปด้วยความอิสระเสรี เพื่อนๆมีให้คบและไปด้วยกันถึง 3 โรงเรียน แรกๆก็สนิทคบเพื่อนกลุ่มหนึ่งก็พากันเที่ยวเอาแต่สนุกสนานและปรากฏว่าปีแรกๆมักจะสอบไม่ผ่านหลายวิชา ผมจึงมาคิดคำนึงว่า เรามาเรียนหนังสือนี่นาทำไมถึงสอบตก ในระยะหลังผมจึงแอบปลีกตัวไปคบกับเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งพาเข้าห้องสมุดและอ่านหนังสือ ผลสอบออกมาว่าทุกวิชาสอบผ่านหมด ผมจึงคิดได้ว่าที่คำโบราณที่ให้ไว้ "คบคนพาล พาลไปหาผิด...คบบัณฑิต บัณฑิต พาไปหาผล"เป็นความจริงไม่ผิดเพี้ยน
9/24/2006
Best Practice
รายงานภาพ นักวิชาการพัฒนาชุมชน..ศูนย์ช่วยเหลือทางวิชาการพัฒนาชุมชนเขตที่ 5 ลำปาง..นอกจากจะได้รับไฟเขียวจาก ผอ.แล้ว ได้มีเวทีย่อยและเวทีทางการ...เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้...เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และทุกครั้งจะต้องนำเรื่องปฏิบัติการมาหารือกันเพื่อหาแนวทางทำงานที่ดีที่สุดทั้งแบบทางการและไม่เป็นทางการ สิ่งที่ได้ตามมาคือ... Best Practice เกิดประสิทธิภาพของงานสูงสุด
9/23/2006
เรื่อง กระทงลอยฟ้า
กรรมการชุมชนบ้านปงสนุก อำเภอเมืองลำปาง ได้จัดงานสลากภัตต์ขึ้นวันที่ 22 กันยายน 2549 ณ วัดปงสนุก กลุ่มอนุรักษ์บ้านปงสนุกจึงจัดให้มีการปล่อยโคมลอยตามประเพณี เช่นเดียวกันในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เป็นวันลอยกระทงจะมีประเพณีการปล่อยโคมลอยแข่งขันในกลุ่มลุ่มแม่น้ำวัง อำเภอเมืองลำปาง จัดโดยเทศบาลนครลำปางและขอแนะนำประเพณีปล่อยกระทงลอยฟ้า(กระทงเล็ก)ซื้อได้และปล่อยที่วัดดอยกองมู จังหวัดแม่ฮ่องสอนในวันลอยกระทงเช่นกัน
9/22/2006
เรื่อง กำลังใจ
ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ผมโดนมรสุมเข้ารุมล้อม ไม่ว่าหนี้สิน การงาน ทำให้คิดที่จะตัดช่องน้อยแต่พอตัว คืนนั้น ...ก็ได้เตรียมตัวและอุปกรณ์ไว้เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะลงมือก็คิดว่าก่อนที่เราจะตาย เราควรคิดพิจารณาย้อนอดีตความเป็นมาเป็นตายครั้งสุดท้าย คิดย้อนตั้งแต่เด็ก ความคิดได้ปิ๊งเรื่องหนึ่งว่า...เรายังมีเพื่อนและคนที่รักเราอยู่...ตัวเราน่าจะมีประโยชน์อยู่บ้างไม่มากก็น้อย...แค่นั่งเป็นเพื่อนเขา...พูดคุยกับเขา...ให้กำลังใจเขา...เราก็ทำได้ โลกนี้ยังสวยงามที่เรายังมีเพื่อนและญาติพี่น้องอยู่...เราทำประโยชน์ให้กับเขาเล็กๆน้อยๆก็ยังดี คิดได้ดังนั้นแล้วผมจึงมีกำลังใจและล้มเลิกการตัดช่องน้อยแต่พอต้วแล้วหันมาสู้ชีวิตต่อไป
9/21/2006
เรื่อง ธนาคารข้าว
พ.ศ.2542 ผู้ใหญ่บ้านแม่สุขใน ตำบลวังซ้าย อำเภอวังเหนือ เข้าร้องเรียนกับพัฒนาการอำเภอว่า เดี๋ยวนี้ชาวบ้านทะเลาะกันเรื่องกลุ่มออมข้าว จึงขอให้พัฒนาการอำเภอไปประชุมที่หมู่บ้าน เวลา 20.00 น. ในที่ประชุมได้ทราบว่ามีผู้กู้ข้าวไปหลายรายแต่มี18 ราย ไม่ยอมคืนข้าว..ทำให้กิจการกลุ่ม(สมาชิก46 ราย)ล้มลงและทำให้เกิดมีการทะเลาะกันขึ้นในหมู่บ้าน พัฒนาการอำเภอจึงชี้แจงว่า กลุ่มออมข้าวเป็นกลุ่มธุรกิจเพื่อหากำไร แต่มีอีกกิจกรรมหนึ่งเป็นพระราชดำริของในหลวงคือ ธนาคารข้าว เป็นของส่วนรวมในหมู่บ้านเพื่อ 1สงเคราะห์แก่คนที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้2เพื่อสงเคราะห์ให้ยืมโดยมีดอกเบี้ยต่ำมาก เช่น ยืมข้าว 10 ถัง เมื่อข้าวใหม่ออกมาก็ให้ใช้ 11 ถังเป็นต้น 3 เพื่อแลกแรงงานให้กับคนจนที่ทำงานให้กับสาธารณะ มติที่ประชุมหมู่บ้านจึงให้เปลี่ยนเป็นธนาคารข้าว และผู้กู้ข้าวไป 18 รายตกลงพร้อมใจกันคืนข้าวภายใน 1 สัปดาห์ บ้านแม่สุขในจึงเกิดความสงบสุขและสามัคคีในเวลาต่อมา
เรื่อง ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว
ธรรมะเป็นสิ่งที่เที่ยงแท้ นานมาแล้วสมัยเมื่อผมยังเด็กอายุประมาณ 11 ขวบ ซุกซนมาก วันหนึ่งทะเลาะกับเพื่อนแย่งของเล่นซึ่งเป็นดาบพลาสติกคล้ายกับไม้บรรทัดแข็ง ปรากฏว่าเพื่อนผมแย่งไปได้ทำให้ผมโกรธมากและคิดจะทำร้ายเขา พอเข้าใกล้ผมก็รีบกระโดดเตะสุดแรง เพื่อนก็หลบและใช้ดาบพลาสติกพันที่หน้าแข้งผม ผมล้มลงครวญครางด้วยความเจ็บปวด..ญาติๆจึงพาไปโรงพยาบาล หมอทำการล้างแผลซึ่ง..ซึ่ง..เป็นที่สุดของการเจ็บปวดเข้ากระดูกดำ จึงทำให้ไม่เคยลืมเท่าทุกวันนี้ เสร็จแล้วหมอถามญาติผู้ใหญ่ว่า เด็กไปทำอะไรมา?..กระดูก..ถึงแตกและบิ่นออกเกือบ 1 เชนฯ ผมจึงนึกได้ว่า..ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว..จริงๆ
9/20/2006
เรื่อง ผู้จัดการธนาคาร
เที่ยงวัน ณ อำเภอแจ้ห่ม ผมได้นั่งรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนคนหนี่งซึ่งเป็นผู้จัดการธนาคาร เธอคุยถึงเรื่องการเข้าสอบสัมภาษณ์การเข้าสู่ตำแหน่งผู้จัดการธนาคารสาขาว่า คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของสำนักงานใหญ่ถามว่า...คุณเชื่อเรื่อง...นรก..สวรรค์...มีจริงหรือไม่? เธอตอบว่าเชื่อและคณะกรรมการถามต่อว่าเชื่ออย่างไร เธอตอบว่า...สวรรค์อยู่ในอก...นรกอยู่ในใจ อีกไม่นานเธอก็ได้รับคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการธนาคารสาขา
9/19/2006
เรื่อง พระบารมีปกเกล้า
9/18/2006
เรื่อง การทำบุญ
9/17/2006
เรื่อง อาหารจานพิเศษ
พัฒนาการอำเภอแม่พริกได้ออกท้องที่ไปเยี่ยมผู้นำอาชีพก้าวหน้าในไร่ส้ม ก็ได้พูดคุยกัน ประมาณว่าใกล้เที่ยงวัน ลูกชายและภรรยาของผู้นำก็ยกสำรับอาหารมาวางไว้ที่แค่นั่งเล่น ผู้นำก็ได้ชวนพัฒนาการอำเภอร่วมรับประทานอาหาร โดยกล่าวขอเชิญท่านร่วมรับประทานอาหาร อาหารวันนี้พิเศษจริงๆ พัฒนาการฯมองดูอาหารเป็นน้ำพริกผักและแกงอีกหนึ่งถ้วย พอพัฒนาการฯรับประทานแกงแล้วจึงเอ่ยว่า แกงนี่ใส่อะไรครับเนื้อละเอียดนิ่มกว่าเนื้อไก่อีก ผู้นำตอบว่า นี่เป็นแกงอ่อมปรุงด้วยเนื้อ...งูสิง...พัฒนาการฯได้ยินดังนั้นก็...คลื่นไส้แทบอาเจียนแล้วคิดว่า โอว...ท้องเรานี่เป็นสุสานใหญ่จริงๆขนาดงูสิงยังไม่เว้น
9/16/2006
เรื่อง เจ้าพ่อประตูผา
วันจันทร์พัฒนาการอำเภอขึ้นไปที่ว่าการอำเภองาวเพื่อลากิจอ่านหนังสือสอบเลื่อนระดับ จำนวน 5 วัน และจะไปสอบที่ กท.ม.ในวันอาทิตย์ ปรากฏว่าเสมียนปกครองนำ FAX มาให้ ข้อความว่า ให้พัฒนาการอำเภอพร้อมพัฒนากรไปอบรมที่ ศพช.เขต 5 จำนวน 5 วัน โดยให้ไปรายงานตัวในวันจันทร์นี้เวลา 13.00 น. พัฒนาการอำเภอนั่งรถราชการมาพร้อมกับพัฒนากร ระหว่างทางคุณวิศิษฐ์ฯพัฒนากรกล่าวว่า ผมสงสารหัวหน้าจังเลยทำงานก็หนักจะอ่านหนังสือสอบก็ต้องเข้ารับการอบรมอีก เอาอย่างนี้ผมจะบนบานเจ้าพ่อประตูผาให้ ต่อหน้าศาลเจ้าพ่อคุณวิศิษฐ์ฯบนบานว่า...ขอให้หัวหน้าผมสอบได้เถิด...ผมจะเลี้ยง...บุหรี่ 1 เบ้า เหล้า 1 ไห ไก่ 1 คู่ เอ้าหัวหน้าจุดประทัดบน ต่อมาไม่นานพัฒนาการอำเภอได้รับโทรศัพท์ว่า...หัวหน้าสอบได้แล้ว...ได้ที่ 254...พรุ่งนี้หัวหน้ารีบนำของมารับผมไปแก้บนด้วย
นิทาน ความพอประมาณ 3 ประเภท
ในกลุ่มผู้นำชุมชนแห่งหนึ่งได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ผู้นำคนแรกกล่าวว่า ผมวัน...วันใช้เงินไม่ถึง 100 บาท ครอบครัวผม..พอมีพอกิน..ไม่เดือดร้อนอะไร แต่ต้องอดออมไม่ฟุ้งเฟ้อ... ผู้นำคนที่สองกล่าวขึ้นอีกว่า...ทุกวันเย็นผมจะพาครอบครัวไปรับประทานอาหารดีๆใหม่ๆที่ภัตตาคารเงียบๆเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในครอบครัว...เอ๊ะอย่างนี้เขาเรียกว่า...เหลือกินเหลือใช้...ผู้นำคนที่สามกล่าว และกล่าวต่อ สำหรับผมต้องจิบไวท์..ตีกอล์ฟ..พาครอบครัวไปเที่ยวต่างประเทศพร้อมกับคนรับใช้ติดตาม..ผู้นำคนที่สี่คิดว่าอย่างนี้เขาเรียกว่า...มั่งมี ศรีสุข... ท่านล่ะรู้จักตัวเองไหม?ว่ามีความพอประมาณอยู่ในประเภทใด?
9/15/2006
ตอน ประตูมาร
มิถุนายน 2535 ผมได้ย้ายไปรับราชการที่จังหวัดแพร่ ก็มีความตื้นเต้นพอควร เมื่อเดินทางไปถึงจังหวัดแพร่ก็เริ่มทำหน้าที่นักพัฒนาออกสำรวจพื้นที่และได้เจอป้ายหนึ่งเขียนว่าทางไปประตูมาร ผมอดที่จะประหลาดใจไม่ได้เมื่อไปถึงที่ทำงานจึงแอบถามเพื่อนว่า เอ จังหวัดแพร่มีประตูมารด้วยหรือเพื่อนตอบว่ามีคำว่าประตูมารคนสมัยโบราณได้ตั้งขึ้นมีความหมายว่า ทางไปสุสาน เพื่อนเข้าใจไหม ผมรีบตอบว่าเข้าใจแล้วครับ
9/14/2006
ตอน มะแล่ที
นานมาแล้ว...พัฒนากรได้รับเชิญไปร่วมพิธีกรรมมัดมือช้างของชาวปากะญอในหมู่บ้านหนึ่งของอำเภออุ้มผาง พอเสร็จพิธีพัฒนากรกำลังเดินกลับที่พักปรากฏว่ามีหญิงสาว(ทราบภายหลังว่าชื่อ มะแล่ที)ปากะญอแต่งชุดสีขาวเดินตามมา พัฒนากรจึงถามว่า เดินตามมาทำไม เธอตอบว่า...อยากจะเอาเสี่ยวมาเป็น...เตอกัวดอ...ฮ้ามันแปลว่า...สามี...พัฒนากรไม่รู้จักเธอมาก่อนจึงถามว่าเพราะอะไร...เธอตอบว่าเสี่ยวล่ำสันดีอยากจะเอาไปทำไร่ข้าวป้าง(ข้าวโพด) พัฒนากรได้แต่เดินหนีและรำพึงว่า...โถหนุ่มปากะญอแข็งแรงกว่าเรามีถมไป
9/13/2006
ตอน เกียรติยศหรือเงินตรา
พ.ศ.2537 พัฒนาการอำเภองาวได้รับการด์เชิญให้ไปร่วมงานขึ้นบ้านใหม่ของกำนัน 2 คน ซึ่งมีกำหนดวัน เวลา ตรงกันเป๊ะ พัฒนาการอำเภอจึงไปร่วมงานขึ้นบ้านใหม่ของกำนันที่มาจากอดีตผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนซึ่งอยู่ในหมู่บ้านที่ห่างไกลมาก ต่อมาอีก 1 สัปดาห์พัฒนาการอำเภอก็ปะหน้ากำนันอีกคนหนึ่ง กำนันกล่าวว่าทำไมหัวหน้าไม่ไปงานขึ้นบ้านใหม่ผมล่ะ พัฒนาการอำเภอตอบว่าพอดีมี 2 งาน ผมจึงฝากซองร่วมทำบุญให้พัฒนากรไปแทนแล้ว กำนันโกรธและต่อว่าผมไม่เอาเงินผมจะเอาหัวหน้าๆไม่ให้เกียรติผมเลย พัฒนาการอำเภอคิด ฮือ เวรกรรมจริงๆ และได้แต่กล่าวว่า ผมขอโทษครับ
9/12/2006
ตอน เศรษฐกิจพอเพียงลุงเขียน
ณ ชุมชนแห่งหนี่ง พัฒนาการอำเภอได้พูดคุยกับกลุ่มผู้นำและในขณะนั้นลุงเขียนได้เอ่ยขี้นว่า เศรษฐกิจพอเพียงของผมคือ การไม่จ่ายสตางค์ ทุกคนตั้งใจฟังต่อว่า ผมมีเหตุมีผลของผมว่าครอบครัวผมพอมีพอกินเพราะทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวทางของในหลวง ข้าวปลาอาหารมีพร้อมไม่ต้องซื้อ แถมผลผลิตเหลือก็ขายและเก็บออมเงินไว้เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันในอนาคตเป็นเรื่องพอประมาณสำหรับผมและครอบครัว พัฒนาการอำเภอถามว่า เอ แล้วความดีอันนี้ชาวบ้านใกล้เคียงเขาเอาแบบอย่างไหม ลุงเขียนตอบว่าแน่นอนเพราะผมเผยแพร่ความคิดให้พวกเขาเข้าใจและลงมือทำแล้ว
9/11/2006
ตอน อัศวินส้ม
จบจากการสัมมนาขอพบคุณหน่อยมีคนกล่าวหาคุณเรื่องส้ม พัฒนาการจังหวัดฯกล่าว ระหว่างการสัมมนาผู้ว่าราชการจังหวัดฯขอพบผู้เข้าสัมมนาเวลา14.00 น.และกล่าวว่า สำนักงาน ก.พ.ชมว่าน้ำส้มคั้นสดจากจังหวัดลำปางเป็นที่ชื่นชอบของเจ้าหน้าที่มากจึงขอร้องให้กลุ่มนำไปจำหน่ายทุกวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ด้วย เท่านั้นแหละพัฒนาการจังหวัดยิ้มจนแก้มบาน จากนั้นพี่แดงหัวหน้าฝ่ายจังหวัดก็เดินมาหาพัฒนาการอำเภอแม่พริกและกล่าวว่าหัวหน้าขอยกเลิกการพบกับคุณแล้ว พัฒนาการอำเภอจึงคิดในใจว่า โอ ตอนเช้าเรายังเป็นจำเลยถูกกล่าวหา ไงบ่ายจึงเป็นอัศวินส้มไปได้
9/10/2006
ตอน ดาบเหล็กน้ำพี้
ณ บ้านวังหมู ตำบลหาดกวด อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ พัฒนากรใหม่ได้ฝึกงานในหมู่บ้านมีกิจกรรมช่วยชาวบ้านเก็บใบยาสูบ(พันธุ์เจ็กดำ) เพื่อนำมาคัดกรองและตากแดดพอหมาดๆ พันเป็นกลมกรวยแล้วหั่นให้เป็นฝอย นำใบยาฝอยตากแดดต่อจนแห้งบรรจุเป็นมัดๆเพื่อนำไปจำหน่าย และได้ส่งเสริมอาชีพการเล้ยงไก่ให้กับกลุ่มเยาวชนในตำบล พัฒนากรใหม่ได้พักค้างกับครอบครัวหนึ่งมี 3 พ่อแม่ลูก ในบ้านพักมี 2 ชั้นตีฝาทึบรอบ ที่หัวบันไดชั้น 2 มีมีดดาบยาวประมาณ 1 เมตรแขวนอยู่พัฒนากรใหม่ถามว่านั้นอะไรครับ เจ้าของบ้านตอบว่า นั้นเป็นมีดดาบเหล็กน้ำพี้เป็นของโบราณตกทอด มีสรรพคุณในทางให้ครอบครัวอบอุ่นมั่งคงและช่วยป้องกันคุณไสสิ่งไม่ดีเข้ามาในบ้าน เจ้าของบ้านคุยฟุ้งอย่างชื่นชม
9/09/2006
ตอน น้ำฝาง
ตี4 ตอน พ.ศ.2538 ผมได้เดินเที่ยวในตลาดสดของอำเภองาวได้ชมสินค้าที่พ่อค้าแม่ค้านำสินค้ามาจำหน่ายอย่างคึกคัก และแลเห็นร้านขายกาแฟอยู่ร้านหนี่งมีชายสูงวัยนั่งดื่มกาแฟอยู่กลุ่มหนี่ง ผมจึงเดินเข้าไปและเอ่ยว่ากาแฟไข่ลวก 1 ที่ พอเจ้าของร้านเข้ามาเสริฟ ผมก็เห็นมีแก้วหนึ่งมีน้ำร้อนเป็นสีชมพูเข้มทำให้แปลกใจมากจึงถามว่านี่น้ำอะไร เจ้าของร้านตอบว่า น้ำฝางทำจากต้นฝางใช้แทนน้ำชา ชายสูงวัยคนหนึ่งกล่าวเสริมว่า น้ำฝางนี่เป็นสมุนไพรแก้กระสัยปวดเมื่อยแถมยังบำรุงไตขับปัสสาวะได้อย่างดี ผมจึงคิดในใจว่า เห็นทีเราคงจะเป็นแฟน น้ำฝาง นี้เสียแล้ว
9/07/2006
ตอน ไฟอำนาจ ไฟเสรี
เบรค เบรค รถกำลังจะชนกัน พรรคพวกพัฒนาชุมชนตะโกน ไกค์สาวลาวหันขวับส่งสายตายิ้มและกล่าวว่า เมืองลาวบ่มีรถซนกันและถ้าเป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์เขาเรียกว่ารถ ต๋ำ กัน เอ้า โชเฟอร์ออกรถได้ไฟเขียวแล้วพวกเรากล่าว ไกล์สาวยิ้มอีกและกล่าวว่า เมืองลาวบ่มีไฟเขียว ไฟที่ออกสีแดงเขาเรียกว่าไฟอำนาจและไฟที่ออกสีเขียวเขาเรียกว่าไฟเสรี ทุกคนได้ยินดังนั้นจึงเงียบลงและไม่กล่าวอะไรอีก
9/04/2006
ตอน อาสาชวนชม
ชวนชมเป็นอาสาพัฒนาอำเภอเมืองตากได้รับการประสานงานให้ไปเป็นครูฝึกสอนการตัดเย็บเสื้อผ้าที่อำเภออุ้มผางเมื่อกลางปี 2522 แก่กลุ่มสตรีจำนวน 15 คน ใช้ระยะเวลาการฝึกอบรม 1 เดือนเต็ม พอจบหลักสูตรเบื้องต้นกลุ่มก็นัดหมายเลี้ยงส่งรับประทานอาหารร่วมกันที่น้ำตก ทีลอซู ซึ่งสวยงามมาก พอรับประทานอาหารเสร็จก็นั่งคุยกันถึงบ่ายจึงได้เวลาเดินทางกลับ ปรากฏสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้น คือ...ไฟป่าไหม้โหมขึ้นทางเขาที่เป็นทางกลับที่พัก ทุกคนต่างตกใจและทำอะไรไม่ถูก ขณะนั้นเองมีสตรีคนหนึ่งเอ่ยว่า"ลมได้ตีกลับไฟโหมไปข้างล่างแล้ว" ทันใดนั้นชวนชมรีบวิ่งฝ่าคร้วไฟจางๆแล้วก็ล้มลงอีกฟากหนึ่งและแน่นิ่งไป พัฒนาการอำเภอและกลุ่มสตรีรีบวิ่งตามมา ชวนชมก็ผงะตัวนั่งขึ้นน้ำหูน้ำตาไหลเพราะครัวไฟ แล้วว่า "ประทับใจจริงๆ ทีลอซู"
9/03/2006
ตอน พระเจ้าทันใจ
พระเจ้าทันใจประดิษฐ์สถานอยู่ที่วัดพุทธสันติวิเวก บ้านนิคมหมู่ 16 อำเภอเมืองลำปาง สร้างขี้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2547 ด้วยมวลสารผสมน้ำศักดิ์สิทธ์ 108 บ่อ ไคลองค์พระ 108 องค์ ตามราชประเพณีมีองค์ธาตุครบ 32 ประการ สร้างเสร็จภายในวันเดียวคือตั้งแต่เวลา 09.00 น. - 24.00 น.เป็นพระพุทธรูปปูนหล่อขนาดใหญ่ มีพิธีเบิกพระเนตรในเวลาเที่ยงคืนและมีสิ่งอัศจรรย์เกิดขึ้น มีประชาชนในพื้นที่และชาวต่างประเทศมาบนบานขอพรก็สำเร็จเกือบทุกราย โดยเฉพาะครอบครัวของนายวีระยุทธ มณีผาย รวมอยู่ด้วย
9/02/2006
ตอน ม่อนหินเหล็กไฟ
ระหว่างอำเภอพบพระเกือบถึงอำเภอแม่สอด มีเขาสูงชันมากเรียกว่าม่อนหินเหล็กไฟ ถ้ามองภาพลงมาจากม่อนจะเห็นทิวทัศน์อันสวยงามของตัวเมืองแม่สอดเกือบทั้งหมด ระยะทางจากจุดสูงสุดของม่อนถึงตีนเขามีระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ภูมิประเทศด้านซ้ายมือเป็นหุบเหวลีกมากและด้านขวามือเป็นภูผา วันนั้น วันนั้น รถจิ๊บโดยสารจากอำเภออุ้มผางเกิดเบรคแตกจากยอดดอยม่อนหินเหล็กไฟ คนขับรถมีสติพยายามชนกองทรายข้างทางแต่มันเร็วมากและไม่ยอมหยุดมีผู้โดยสารโดดลงกองทราย 5 คน (ได้รับบาดเจ็บ) พัฒนาการอำเภอและผู้โดยสารอีก 2 คนยังไม่ยอมโดดออกจากรถ รถก็ละลิ่วลงมา(ไม่สามารถใส่เกียร์ต่ำได้) ผู้โดยสารสาวกรี๊ดร้องว่า "อาบา อาบา ช่วยด้วย"แล้วก็สลบไป พัฒนาการอำเภอตระโกนว่าให้ชนเขาด้านขวาแต่คนขับรถมีสติดีมากสามารถประคองรถไปกลางถนนถึงตีนเขาได้ด้วยความปลอดภัย ทุกคนช่วยให้หญิงสาวฟื้นและถามว่า อาบา คืออะไร หญิงสาวตอบว่า อาบา คือ พระผู้เป็นเจ้า
9/01/2006
ตอน รางวัลชีวิต
พวกเราชาวพัฒนาชุมชนทำงานหนักเพราะเป็นส่วนหนึ่งในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชน ปลายปี 2526 ศพช.เขต 5ได้จัดทัศนศึกษาดูงานทางภาคใต้และประเทศมาเลเชีย สิงคโปร์(ได้รับอนุมัติจากกระทรวงมหาดไทยแล้ว) โดยออกค่าใช้จ่ายเอง สิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุดคือที่เกาะเซนโตซ่า เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้นั่งกระเช้าไฟฟ้าจากแผ่นดินสิงคโปร์สู่เกาะเซนโตซ่า ต่อมาก็ได้นั่งรถไฟรอบเกาะ ซึ่งมีสถานีต่างๆให้พักผ่อน เช่น สถานีตกปลา สถานีอาบแดด สถานีเทนนิส ฯลฯ พวกเราชาวลำปาง 4 คน ได้หารือกันแล้วตกลงที่จะเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง เมื่อพวกเราเข้าเยี่ยมชมทุกคนถึงกับตะลึง โอ มีหุ่นขี้ผึ้งพระอริยะสงฆ์ไทยอยู่ด้วยและมีชาวต่างประเทศหลายรายยกมือไหว้อย่างเคารพนับถือ
8/30/2006
ตอน แหกตาสามัคคี
ปี ๒๕๔๕ พัฒนาชุมชนจังหวัดลำปางได้นำคณะไปศึกษาดูงานประเทศลาวโดยข้ามแม่น้ำโขงทางสะพานมิตรภาพจาก จ.หนองคายเข้าสู่นครเวียงจันทน์ ทางการของลาวได้ส่งไกด์สาวปริญญาโทมานำทางคณะพวกเรา พอถึงพิพิธภัณฑ์แห่งชาติลาว ไกด์สาวจึงเชิญพวกเราลงจากรถบัส พวกเรารวมกลุ่มกันและไกด์ได้เอ่ยขึ้นว่า พวกท่านมาทางนี้มาร่วมกัน..แหกตาสามัคคี..พวกเราไม่มีใครกล้าออกไปสักคน ไกด์สาวจึงเอ่ยขึ้นอีกว่า ขอโทษ คำว่าแหกตาสามัคคีเป็นภาษาลาวซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า..ถ่ายรูปหมู่..พวกเราบางคนยิ้มและทุกคนรีบเดินตามไกด์สาวไปแหกตาสามัคคีทันที
8/29/2006
ตอน ระฆ้งศักดิ์สิทธิ์
กรกฎาคม 2546 ผมได้ย้ายไปรับราชการที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน วันหนี่งได้พาเพื่อนนั่งรถยนต์ขี้นไปบนพระธาตุดอยกองมู เพื่อสักการะและชมทิวทัศน์ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อนๆตื่นตาตื่นใจและเดินไปที่ระฆังใบใหญ่ที่มีหลายใบและกำลังจะตีระฆังปรากฏว่ามีหญิงขายล็อตตารี่กล่าวว่า..ถ้าอยากได้บุญก็ตีระฆังเถิดเพราะเป็นระฆังศักดิ์สิทธิ์ ตีแล้วจะได้กลับมาเยี่ยมจังหวัดแม่ฮ่องสอนอีก..พวกเราจึงถามว่าเพราะอะไรล่ะ หญิงนั้นตอบว่า เพราะมันเป็นตำนานเก่าแก่ของที่นี่ ผมจึงคิดย้อนกลับว่า มิน่าล่ะตอน พ.ศ.2526 ผมได้เดินทางไปประชุมที่จังหวัดนี้และได้ตีระฆังเสียงดังสนั่นหวั่นไหว..จีงได้กลับมารับบุญอีก แต่ขณะนี้ผมไม่ตีระฆังอีกแล้วเพราะกลัวบุญหล่นทับซ้ำสอง
ตอน ขอมดำดิน
นานมาแล้วพัฒนาการอำเภออุ้มผางได้เดินทางโดยรถยนต์รับจ้างจากอำเภออุ้มผางเพื่อไปจังหวัดตาก รถเป็นรถจิ๊บขนาดกลางค่าโดยสารคนละ 200 บาทออกจากอำเภอตอนตี 5 มีผู้โดยสารรวม 8 คน การเดินทางต้องข้ามเขตประเทศพม่า โดยถนนทางเท้า รถจะเดินได้ช้ามากและติดหล่ม ผู้โดยสารทุกคนจะต้องช่วยคนท้ายรถลากสลิงวินหน้ารถ ดันรถให้ขึ้นจากหล่มดินตลอดทาง ระหว่างคลุกโคลนทุกคนโดนหนามไผ่เกี่ยวและมีแผลเลือดออกซิบๆ แถมที่ฝ่าเท้าก็โดนแง่งหินบาดเป็นแผลเต็มไปหมด เป็น การเดินทางอย่างทุลักทุเล ทุกคนอ่อนเพลียเจ็บปวดเหนื่อยล้าและหมดแรง พอข้ามแม่น้ำเมยพ้นเขตพม่าเข้าสู่บ้านวาเล่ย์เขตอำเภอพบพระ เวลา 2 ทุ่มเศษ ทุกคนแยกย้ายกันหาบ้านพักหลับนอนอาศัย พัฒนาการอำเภอก็ไปบ้านหลังหนึ่ง มีชายชราคนหนี่งโผล่หน้าออกมาพร้อมตะเกียงแล้วร้องว่าเอ๊ะ นี่ใคร? เป็นขอมดำดินมาหรือเปล่า? พัฒนาการอำเภอได้ยินดังนั้นก็...น้ำตาเล็ด... แล้วรำพึงกับตัวเองว่า โห...ชีวิต
8/28/2006
มชช.เขา....มชช.เรา (มาตรฐานงานชุมชน)
เมื่อคราวสัมมนาถอดบทเรียนเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนโครงการแก้จนฯ ณ นอร์ทเทินฮอริเทจรีสอร์ท จ.เชียงใหม่ วันที่ 22 - 24 สิงหาคม 2549 มีพัฒนาการอำเภอปง จ.พะเยา นามนายไพโรจน์ โพธิศาสตร์ ให้ข้อคิดเห็นว่า การแก้ไขปัญหาความยากจนของชุมชนจะใช้ระบบ มชช.ก็ได้ เช่น ในหมู่บ้านปัว มีครอบครัวหนึ่งไม่มีที่ดินทำกินเลยแต่ไม่มีหนี้สิน ซึ่งตรงกันข้ามกับครอบครัวที่มีที่ดินทำกิน 10-20ไร่มีแต่หนี้ เมื่อเข้าไปคุยกับครอบครัวนั้นก็ทราบว่าเขาก็มีมาตราฐานตามวิถีเขาเรียกว่า มชช.เขา ทีนี้เจ้าหน้าที่ พช.ต้องเชื่อมให้เขามาเข้า มชช.เรา และให้เขาเป็นเครือข่ายต้นแบบการแก้ไขปัญหาความยากจนในหมู่บ้านแบบให้การซึมซับเข้าไปในวิถีของครอบครัวยากจนอื่นๆ นี่แหละขอตบมือให้นักพัฒนาที่มีดวงตาที่สามและเรียกว่าเป็นการสร้างงานพัฒนาชุมชนในแนว Two -Wayแบบบูรณาการซึ่งก่อให้เกิดเป็น "นวัตกรรมใหม่" ในวงการ พช.
Subscribe to:
Posts (Atom)